dragonhead
                           
>>order now
Title

Dragon head

Starring

Fujiki Naohito, Tumaogi Sou, Tsumabuki Satoshi

Director

George Lida

Length

123 min.

Detail

บรรยายไทย,ปกสี หน้าหลัง

ราคา

2 แผ่น 120 บาท

Preview

As we enter the 21st century, the ominous doom of the Apocalypse has assumed greater significance. Regrettably, however, recent films dealing with the theme have lacked realism with miraculous endings manufactured by unbelievable heroes.

In "Dragonhead" emerges an entirely different, darker perspective of the end of the world. "Dragonhead", originally released as an animated comic series has established record sales of 6.5 million copies and developed a fanatical following of men and women from the teens to the thirties. (The author, Mochizuki is credited with other best-selling works such as "Bata-ashi Kingyo", "Zashiki-Onna", "Samehada Otoko to Momojiri Onna", and "Baiku Main", and enjoys charismatic popularity as a contemporary animation phenomenon.)
The main characters in this extraordinary tale, Teru and Ako, are actually quite ordinary and plagued with human frailty. Their saga begins with a harrowing escape from a collapsed tunnel, only to encounter even greater "horror" and "madness" on their journey through the devastated ruins in search of Tokyo. The reader is drawn into this nightmarish ordeal along with Teru and Ako, where survivors are driven to the edge of their physical and psychological limits - and fierce mudslides and volcanic fumes mercilessly engulf them.

"Dragonhead" is a work that skillfully and realistically recreates the darkest images of "despair" "fear" and "entrapment" living in the deep recesses of our minds. If a film's entertainment value is measured by the ability of the audience to "live the experience" as if they were indeed a part of it, "Dragonhead" certainly hits the mark. What it also does is make us question the meaning of "life" and what is most precious to us.

ถ้าจะพูดถึงหนังแนววิทยาศาสตร์เกี่ยวกับเหตุการณ์ธรรมชาติเรื่องล่าสุดที่ได้ชมก็คงจะเป็น The day after tomorrow ที่โดยภาพรวมแล้ว
ประทับใจใน graphic แต่ไม่ประทับใจในบทเท่าไหร่นัก วันนี้จะขอพูดถึงหนังแนวนี้แต่เป็นแนวสัญชาติปลาดิบแล้วกันค่ะ

Dragonhead เป็นหนังแนวมหันตภัยล้างโลก ของผู้กำกับ โจจิ (จอร์จ)อิดะ (ผลงานที่ผ่านมาของเขาอาจจะไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่นัก เช่น Spiral
,Cold sleep ใน Jam films นั่นเอง) เค้าโครงของเรื่องดัดแปลงมาจากหนังการ์ตูนยาวชื่อเดียวกัน ของ โมชิสิกิ มิเนทาโร ที่บ้านเราก็มีเวอร์ชั่น
ไม่มีลิขสิทธิ์มาสักพักนึงแล้ว รู้สึกจะชื่อ "คนจริงโลกแตก" นี่ล่ะค่ะ ^^ เนื้อเรื่องเป็นเรื่องเกี่ยวกับ มหันตภัยของญี่ปุ่นซึ่งเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟฟูจิจนทำให้ญี่ปุ่นล่มสลายอย่างฉับพลัน ฟังดูพลอตเรื่องแล้วคล้ายๆกับ หนังสัญชาติมะกันหลายต่อหลายเรื่อง เช่น The Core, Armageddon หรือ Deep Impact เหมือนกันค่ะ

หนังเริ่มเปิดเรื่องด้วยบรรยากาศหลังเหตุการณ์รถไฟชินคันเช็นตกราง นักเรียนไฮสคูลเกือบทั้งหมดเสียชีวิต มีเพียงเทรุ (สิมาบูกิ ซาโตชิ พระเอกจาก Water boys,Sayonara Kuro) อาโกะ (คันดะ ซายากะ ลูกสาวของอดีตดาราดัง เซโกะ มัตสิดะ) และโนบูโอะ เด็กหนุ่มที่เสียสติจากความกดดันที่ถูกกลั่นแกล้งตลอดเวลา กลายเป็นคนสติแตก ตามไล่ฆ่าทั้ง 2 คนจึงต้องหนีรอดออกมาจากอุโมงค์ใต้ดิน
แต่แล้วทั้งคู่ก็แทบสิ้นสติเมื่อพบว่าเมืองเกียวโตกลายเป็นเถ้าถ่าน ถูกทำลายย่อยยับ มีเพียงขี้เถ้าและควันจากการระเบิดของภูเขาไฟลอยคละคลุ้งเต็มไปหมด พวกเขาตัดสินใจเดินทางกลับไปโตเกียวเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตด้วยความหวังอันริบหรี่ ระหว่างทางก็ได้เจอกับกลุ่มผู้รอดชีวิต แต่โดนผลกระทบจากสถานการณ์นี้ ทำให้เกิดอาการเสียสติ รวมกลุ่มกันไล่ฆ่าคนที่ต้องการจะแยกตัวออกไป ทั้งคู่ได้รับความช่วยเหลือจากนิมูระ (นาโอฮิโตะ ฟูจิอิ นั่นเอง แหมเกือบจำไม่ได้แน่ะ ) และเพื่อนของเขา ทั้งหมดพยายามหาทางเดินทางกลับไปโตเกียวโดยมีความหวังว่าที่นั่นจะมี อาหารและเสบียงรออยู่ แต่จะไปได้ถึงหรือไม่ ท่ามกลางสภาวะธรรมชาติอันเลวร้ายของภูเขาไฟที่ยังถล่มตลอดเวลา อันนี้ต้องลุ้นกันเองในหนังแล้วค่ะ ...

หนังเรื่องนี้มีการลงทุนในด้านการถ่ายทำสูงถึง 15 ร้อยล้านเยน ของญี่ปุ่น (สักประมาณ 13 ล้าน US Dollar) โดยการทุ่มทุนเนรมิตฉากทะเลทรายใน
ประเทศอุชเบกิสสถานให้เต็มไปด้วยฝุ่นและสะเก็ดไฟจากลาวา และยังสุดยอดสเปเชียลเอฟเฟคที่สร้างฉากเมืองโตเกียวให้กลายเป็นซากปรักหักพัง เต็มไปด้วยหมอกควันอีก สุดยอดมากๆค่ะ อยากให้ลองติดตามชมกัน โดยเฉพาะคอหนังไซไฟทั้งหลาย คงจะถูกใจกัน เนื่องจากตัวหนังถ่ายทอดบทสำคัญจากต้นฉบับได้ค่อนข้างสมบูรณ์ทีเดียว และยังสอดแทรกถึงอารมณ์ดิบและธรรมชาติของมนุษย์เมื่อต้องตกอยู่ในสถานการณ์อันเลวร้ายจนไม่สามารถควบคุมสติและอารมณ์ของตัวเองได้ ...

1